1. ซำ
ซำ แปลว่า บริเวณที่ต่ำที่มีน้ำไหลมารวมเป็นแอ่งขัง หรือเป็นที่ชุ่มชื่นมีน้ำใต้ดินมาก เช่น ที่ต่ำของเนินป่า ทางขึ้นภูกระดึงจะมีอยู่หลายซำ ถือเป็นจุดแวะพักระหว่างเดินทาง มีอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายพร้อม
2. ลูกหาบ
แน่นอนว่าการเดินขึ้นภูกระดึง เราจำเป็นจะต้องพึ่งลูกหาบในการช่วยขนสัมภาระขึ้นภู เพื่อเซฟพลัง สะพายแค่กล้องกับของมีค่าเป็นพอ โดยค่าใช้จ่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท จ่ายเงินที่ยอดภู ขาลงจ่ายที่ด้านล่างอุทยานฯ
3. ราคาอาหารและเครื่องดื่ม
ราคาอาหารและเครื่องดื่มด้านล่างอุทยานคือราคาปกติ แต่เมื่อถูกนำขึ้นไปบนภู ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยเนื่องจากค่าขนย้ายที่ยากลำบาก โดยในแต่ละซำน้ำเปล่าขวดเล็กจะราคา 25 บาท น้ำอัดลม 30 บาท อาหารตามสั่งจานละ 50 บาท ส่วนบนยอดภูในอุทยานฯ ราคาก็จะสูงเป็น 60-70 บาท แต่ปริมาณคุ้ม ต้องเข้าใจและเตรียมเงินไปให้พร้อม
4. ร้านกาแฟไอน้ำ
ไม่มีให้เห็นบ่อย ๆ กับเครื่องชงกาแฟไอน้ำโบราณ แต่ที่ภูกระดึงมี หาดูไม่ได้ง่าย ๆ แถมอร่อยซะด้วย ใครอยากไปชิม เดินไปที่โซนร้านอาหาร อยู่ริมสุดเลยครับ
5. หมูกระทะ
หลายคนทราบดีว่าภูกระดึงกับหมูกระทะนั้นเป็นของคู่กัน ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้ม แถมของก็สะอาด อร่อยถูกปากแน่นอน โดยมีให้เลือกหลายร้าน ราคาชุดละ 300 – 500 บาท ส่วนใครที่อยากทานเนื้อวัวต้องสั่งล่วงหน้าเท่านั้น
6. กวางน้อย
เราสามารถพบเจ้ากวางได้ทั่วไปบนภู แต่มันจะออกมามากในตอนเย็นค่ำ เนื่องจากได้กลิ่นอาหารที่เราทาน ฮ่า ๆ นักท่องเที่ยวก็อดไม่ได้ที่จะป้อนอาหารมัน เพราะกวางที่นี่จะคุ้นเคยกับคน ไม่ทำอันตรายใด ๆ
7. ทาก
ถ้าคุณมาเที่ยวภูกระดึงหน้าฝน คุณจะต้องผจญกับทากจำนวนมหาศาล ที่พร้อมจะออกมาทักทายได้ทุกเมื่อ จงเตรียมเลือดในตัวของคุณให้พวกเขาด้วยล่ะ ถือเป็นการทำบุญให้กับสัตว์ตัวเล็ก ๆ อิอิ
8. ช้างป่าและหมาใน
โอกาสที่คุณจะได้พบกับช้างป่าและหมาในมีน้อยมาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย ทางที่ดีควรปฏิบัติตามป้ายอุทยานอย่างเคร่งครัด อย่าเข้าไปในเขตหวงห้าม เพราะช้างป่าไม่ได้ใจดี น่ารัก เหมือนในปางช้างหรอกนะจ๊ะ
9. เที่ยวฤดูไหนก็สวย
ภูกระดึง เที่ยวฤดูไหนก็สวย แม้จะบูมสุด ๆ ช่วงหน้าหนาว กับการชมวิวสุดอลังการของพระอาทิตย์ขึ้นและตก แต่หน้าฝนก็เป็นอีกโมเมนต์นึงที่คุณไม่ควรพลาด เพราะผืนป่าจะอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ และน้ำตกมีน้ำมาก ทำให้รู้สึกเย็นชุ่มฉ่ำ ถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ “น้ำตกถ้ำใหญ่”